หน้าเว็บ

.

.
รวมแหล่งทำบุญ ..ช่วยกันต่อเนื่อง...ด้วยทานของท่าน..ในชาติต่อไป...มั่งมีเงินทองและโอกาส...ไม่มีอุปสรรคในชีวิต....

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

ทำบุญง่าย ๆ สไตล์หลวงปู่ดู่

ทำบุญง่าย ๆ สไตล์หลวงปู่ดู่




วิธีเพิ่มพลังบุญทวีคูณให้กับชีวิตอย่างง่ายๆ
























1. การเพิ่มพลังบุญแบบไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว


เคล็ดวิชานี้ เป็นของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านสอนไว้ว่า
-เวลาตื่นเช้ามาขณะล้างหน้าหรือดื่มน้ำ



  ให้ท่องว่า 

  พุทธัง สรณัง คัจฉามิ 
  ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ 
  สังฆัง สรณัง คัจฉามิ 

  เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตในวันใหม่





-ก่อนกินข้าว 
 ก็ให้นึกถวายข้าวแด่พระพุทธเจ้า














   -ออกจากบ้าน 

  เห็นคนอื่นเค้ากระทำความดี เป็นต้นว่า

  เห็นเค้าใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน 

  ก็ให้นึกอนุโมทนากับเขาด้วย


















-เดินผ่านเห็นดอกไม้บูชาพระวางขายอยู่ 
  ก็ให้เอาจิตนึกอธิษฐานขอถวายดอกไม้เหล่านั้น
  เป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย 















  โดยระลึกว่า 
  พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ 

  แล้วอย่าลืมอุทิศบุญให้พ่อค้า แม่ค้าดอกไม้นั้นด้วย





-เวลาไปไหนมาไหน 
  เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมถวายไฟเหล่านั้นบูชาพระรัตนตรัย 
















   โดยระลึกว่า

   โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธัมมะบูชา สังฆบูชา





2. การเพิ่มพลังบุญด้วยเงินน้อย แต่ได้อานิสงส์ยิ่งใหญ่

การสร้างบุญที่เป็นมหากุศล 

อาทิเช่น 




















การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 


พระมหาเจดีย์ 

สร้างยอดฉัตรหรือสร้างศาสนสถานอื่นใดก็ตาม 











รวมถึงธรรมทานด้วย 
















เพื่อลดวิบากกรรมหนักๆ สามารถทำได้ 

แม้แต่ผู้ที่มีเงินน้อย 











การทำบุญนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินมาก 

เหมือนที่หลายๆคนในปัจจุบันเข้าใจและติดเป็นค่านิยมกัน 

การทำบุญทุกอย่าง ไม่ว่าจะบุญเล็ก บุญใหญ่ 















ให้ทำตามแต่กำลังของเราที่สามารถจะทำได้ 

และต้องไม่เดือดร้อนตัวเอง 








แม้แต่เงินสลึงเดียวก็สามารถสร้างมหากุศลได้ 

ขอให้เพียงเงินนั้นบริสุทธิ์ ไม่ได้ไปเบียดเบียนของใครมาก็พอ 















และที่สำคัญเจตนาตอนที่ทำ 

ต้องบริสุทธิ์ 

มีความยินดีในบุญที่ทำ 

เกิดความสุขและความอิ่มเอมใจ 

นั่นแหละมหากุศลทั้งสิ้น



แต่ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ก็ยังสร้างมหากุศลได้ 

โดยการใช้แรงกายแรงใจในการช่วยก่อสร้าง 

หรือแม้แต่การไปชักชวน ป่าวประกาศให้คนมาร่วมสร้างบุญ 

และขออนุโมทนาบุญกับคนเหล่านั้นด้วยทุกครั้ง 

ก็จะได้บุญมากเช่นเดียวกัน 

อยู่ที่เจตนาและความตั้งใจเป็นที่ตั้ง 


สรุปสั้นๆ ว่า การทำบุญนั้น 



ไม่ว่าจะเป็นเงินเท่าใดก็ได้บุญเช่นกัน 


ยิ่งการทำบุญใดๆ

ที่เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมากมากหรือสังคม 






บุญนั้นก็จะมากขึ้นทวีคูณ ไม่มีวันหมด 



















อาทิเช่น 


สังฆทาน สร้าง โรงทาน วิหาร อุโบสถ ถนน เป็นต้น 


จนกว่าสิ่งก่อสร้างหรือศาสนสถานนั้นๆที่ร่วมสร้างจะพังทลายไป













3. การสวดภาวนา ให้ได้บุญมากขึ้น

การสวดภาวนา คาถาศักดิ์สิทธิ์ หรือมนตราอันศักดิ์สิทธิ์นั้น 
















ถ้าได้ทำอย่างถูกวิธีนั้น 

จะเป็นการเพิ่มบุญให้กับตัวเอง เพราะพลังบุญ 

พลังอำนาจของพระคาถาและมนตรานั้น 

จะถูกดึงเข้าสู่ตัวผู้สวดด้วย



เคล็ดวิธีมีอยู่ว่า 

โดยก่อนสวดนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิที่พร้อมจะสวดแล้ว 

ขอให้ตั้งจิตให้มั่นแล้วอุทิศบุญทั้งหมดที่ตนเคยทำมานั้น 



ส่งให้แด่ครูบาอาจารย์ 




















ผู้เป็นเจ้าของคาถาหรือมนตรานั้นๆด้วย 

ซึ่งเป็นการเชื่อมบุญรูปแบบหนึ่ง 




และหลังจากนั้น 

ก็อธิษฐานขอมีส่วนร่วมในบุญของท่าน 








และขอมีส่วนร่วมในบุญของผู้อื่นที่ได้สวดคาถา

และมนตราศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วย 





เมื่อใดตามที่มีคนอื่นสวดและกระทำเหมือนกับเรา 














เราก็ได้บุญเพิ่มทุกครั้ง




4.การทำบุญด้วยการต่อชีวิตสัตว์ ให้ได้บุญมากขึ้น

การทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์หรือต่อชีวิตสัตว์นั้น 














หลายคนเรียกว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ ซึ่งก็แล้วแต่จิตจะพาไป 

แต่ในความเป็นจริงก็คือ เป็นการทำบุญใหญ่ 

เป็นการช่วยต่อชีวิต ต่อโชคชะตา 

ให้เวลากับสัตว์ที่กำลังจะถึงตายให้ได้มีชีวิตอีกครั้ง 


















และเคล็ดลับสำคัญก็คือ 

ก่อนที่จะปล่อยสัตว์นั้นๆ 

เมื่อได้ซื้อมาหรือเจอ ณ ที่ใดก็ตาม 

ให้นำไปถวายกับพระสงฆ์เสียก่อน เพื่อเพิ่มบุญให้มากขึ้น 












เหตุเพราะว่าพระสงฆ์ที่รับนั้นท่านบริสุทธิ์ และมีศีลมากกว่าเรา 
ท่านย่อมมีบุญมากกว่าเรา 



ยิ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากแล้ว 

บุญนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่า 

จากนั้นก็ขอผาติกรรมชำระหนี้สงฆ์

ซื้อคืนมาจากท่าน 

ด้วยเงินเท่ากับจำนวนที่เราซื้อสัตว์นั้นๆมา 











วิธีนี้เป็นการเพิ่มบุญอีกเท่าตัว ได้ทั้งทำบุญต่อชีวิตสัตว์ 

และชำระหนี้สงฆ์ด้วย 

หลังจากนั้นก็นำไปปล่อยในที่อันสมควร

อานิสงส์ของการทำบุญด้วยวิธีนี้ 

ถ้าใครที่ทำได้ตามนี้ บุญที่ได้จะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า 

จากการที่ไปซื้อมาแล้วก็ไปปล่อยตามยถากรรม 

วิธีนี้นอกจากได้บุญน้อยแล้ว แถมยังได้บาปกลับมาด้วย 

ดังนั้นจะทำบุญทั้งที ควรฉลาดในการทำบุญด้วย



5. การทำสังฆทานให้ได้อานิสงส์บุญมากขึ้น
















การทำสังฆทานควรทำให้ครบทั้งปัจจัยสี่ 

มีอาหาร( คาว-หวาน-ผลไม้-น้ำ ) 

เครื่องนุ่งห่ม ( ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าขนหนูสีสุภาพ ) 

ยารักษาโรค , ที่อยู่อาศัย 
( บ้านหลังเล็กๆ ซื้อได้ตามร้านสังฆภัณฑ์ 
เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยทิพย์ให้กับเจ้ากรรมนายเวร 
เค้าจะได้มีที่พักพิง ไม่มารบกวนเราอีก ) 

และควรเพิ่มหนังสือธรรมะเข้าไปด้วย

เพื่อให้จิตใจของเจ้ากรรมนายเวรซึ้งในรสพระธรรม 

มีจิตใจที่เย็นสบายพ้นทุกข์

เคล็ดลับสำคัญ 

เครื่องสังฆทานและอาหารเหล่านี้ 

เราควรที่จะต้องไปถวายแด่พระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญสูง 















แต่ถ้าหาไม่ได้หรือไม่ทราบ 

ให้เรานั้นตั้งจิตอธิฐานถวายแด่พระพุทธเจ้าโดยตรงและ 

พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ 

หรือครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ 

เพื่อให้อานิสงส์ของบุญจะได้มากขึ้นทบทวี 

และหลังจากนั้นก็ให้อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งหมด 

และควรกรวดน้ำหลังทำบุญทุกครั้ง

เพื่อให้พระแม่ธรณีและเทพเทวาทั้งปวงท่านเป็นพยานในการทำบุญครั้งนี้

สรุป 


เมื่อท่านได้ทราบว่า ทำบุญอะไร 


แล้วได้รับอานิสงส์ของการทำบุญเป็นอย่างไร 

สมควรช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย 

เพราะเป็นการให้คนได้รู้ถึงอานิสงส์ของทำบุญในแต่ละอย่าง 

จะได้จำสืบต่อกันไปอย่างถูกต้อง



ดังนั้น จึงสรุปว่า 


การทำบุญอะไรก็ตาม เมื่อได้ทำบุญแล้ว ก็ได้รับผลบุญในทันที 

กล่าวคือ ขณะที่ทำบุญนั้น สภาพจิตของเราตรงนั้นเป็นอย่างไร 

สุขใจไหม สบายใจไหม ภูมิใจไหม ตรงนี้ไม่ต้องถาม 

หวังว่า ท่านที่เคยทำบุญมาแล้วก็จะตอบตนเองได้อย่างแจ่มแจ้งทีเดียว

เมื่อเราได้ทำบุญ ผลของการทำบุญ 


จะให้อานิสงส์ไม่เหมือนกัน บุญบางอย่าง ก็ให้ผลโดยตรง 

แต่บุญบางอย่าง ก็ให้ผลโดยอ้อมไม่ตรงทีเดียว 


ในเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า อานิสงส์แห่งการทำบุญนั้นไม่เหมือนกัน 

และผลบุญที่เราได้ทำนั้น 

รอให้ผลอยู่ตลอดเวลาแก่ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ 

ตราบเท่าที่ยังมีผลบุญอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำบุญไว้ 

ถ้าไม่ประมาท ถึงแม้ไม่มีอะไรจะทำบุญ 

เพียงแต่เห็นคนอื่นเขาทำบุญ แล้วทำใจให้เลื่อมใส 

ก็เป็นอันได้ทำบุญเหมือนกัน บุญชนิดนี้ 

เรียกว่า บุญด้านปัตตานุโมทนามัย 

( บุญจากการอนุโมทนาบุญ )

ขอบคุณข้อมูลจาก :

http://www.fungdham.com/
http://www.d.igetweb.com/
www.morgangaiyasit.com/forum/viewtopic.phpid=160

12 บริจาคโรงศพ

12 บริจาคโรงศพ

กองทุนโลงศพเพื่อผู้ยากไร้

กองทุนโลงศพเพื่อผู้ยากไร้
กองทุนโลงศพเพื่อผู้ยากไร้ กองทุนโลงศพเพื่อผู้ยากไร้ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2547 โดยพระครูโฆสิตปริยัตยาภรณ์ ได้ตั้งทุนเริ่มแรก จำนวน 10,000.00 บาท วัตถุประสงค์ของกองทุน (1) เพื่อบริจาคแก่ผู้ยากไร้ (2) เพื่อจัดซื้อ-จัดหาโลงศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต (3) เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาทำบุญช่วยเหลือคนยากจน ท่านผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคทรัพย์ และโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนโลงศพเพื่อผู้ยากไร้ ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนสุเทพ บัญชีเลขที่ 521-0-06614-2 ติดต่อกองทุน : โทร. 053-904353 อีเมล์ 71@watpadang.com

ทำบุญ 24 ชั่วโมง วัดหัวลำโพง มูลนิธิร่วมกตัญญู :: ทำบุญยามดึก

ทำบุญ 24 ชั่วโมง วัดหัวลำโพง มูลนิธิร่วมกตัญญู :: ทำบุญยามดึก
ราคาโลงละ 500 บาท บอกไว้อย่างชัดเจน ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน แต่หากไม่อยากทำทั้งโลงหรือเกินแก่กำลังที่พึงจะมีให้ ก็สามารถบริจาคได้ตามกำลังและสมัครใจ